รีวิวเจาะลึกน้ำหอมผู้ชาย น้ำหอม Dior กลิ่นสำหรับผู้ชายทั้ง 3 รุ่น ต่างกันอย่างไร

น้ำหอมผู้ชายที่ฮอตฮิตขึ้นแท่นอันดับ 1 ใน 3 ของน้ำหอมผู้ชายที่ใครๆ ก็การันตีว่าหอมจริง! ฉีดแล้วดูมีเสน่ห์จริง! ดูดีมีชาติตระกูลจริง! และเป็นหนึ่งในกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่สาวๆ การันตีว่าได้กลิ่นแล้วต้องเดินตาม จริง! ก็คงจะหนีไม่พ้น น้ำหอม Dior รุ่น Sauvage

ซึ่งน้ำหอมผู้ชายกลิ่น Dior Sauvage นั้น จะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่น Parfum, Eau de Parfum และ Eau de Toilette โดยวันนี้แก้มจะพาทุกคนไปเจาะลึกกันว่าน้ำหอมผู้ชายกลิ่น Dior Sauvage ในแต่ละรุ่นนั้น จะมีกลิ่นและมีความพิเศษที่แตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันค่า …

น้ำหอม Dior Sauvage รุ่น Parfum

กลิ่นของรุ่น Parfum นั้นจะมีความหอมที่ดูเท่ห์ สุขุม นุ่มลึกมากที่สุด! เหมาะสำหรับการฉีดไปทำงานหรือทำธุระที่ดูเป็นทางการ โดยกลิ่นนี้นั้นจะมีความหอมที่ดูนุ่ม ลึก ไม่มีกลิ่นฉุนเนื่องจากไม่มีการใส่กลิ่นแอมบรอกซานลงไปผสม กลิ่นของรุ่นนี้จะมีกลิ่นหอมของไม้และเบอร์กาม็อตที่โดดเด่น ผสมกับกลิ่นสไปซี่แมนดารินที่ทำให้กลิ่นของรุ่น Parfum นั้นดูลงตัวมากยิ่งขึ้น ความพิเศษของกลิ่นรุ่น Parfum นั้นจะอยู่ตรงที่ไม่มีกลิ่นของเครื่องเทศผสมอยู่เลย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มองหาน้ำหอมผู้ชายที่ดูนุ่ม ลึก ไม่ต้องการความฉุนหรือความสดใสของกลิ่น

น้ำหอม Dior Sauvage รุ่น Eau de Parfum

กลิ่นของรุ่น Eau de Parfum นั้นจะมีความเท่ห์ที่ดูขี้เล่น ติดความสดใสและความทะเล้นแบบเบาๆ ด้วยกลิ่นหอมของเบอร์กาม็อตที่ผสมกับเครื่องเทศอย่างดอกโปยกั๊ก รวมกับกลิ่นของแอมบรอกซาน ทำให้กลิ่น Top nose นั้นจะดูสดใสมากกว่ากลิ่นของรุ่น Parfum ที่ไม่มีความฉุนเลย แต่จะไม่มีความนุ่มลึกเหมือนอย่างรุ่น Parfum

น้ำหอม Dior Sauvage รุ่น Eau de Toilette

ส่วนกลิ่นของรุ่น Eau de Toilette นั้น Top nose จะมีความสดใสที่สุด เพราะรุ่นนี้จะมีการผสมกลิ่นแอมบรอกซานเข้าไปมากที่สุด ทำให้ความหอมที่ได้นั้นจะดูเท่ห์แบบขี้เล่น แฝงไปด้วยความหนุ่มและความเยาว์ ทำให้กลิ่นนี้จะเหมาะกับผู้ชายที่ยังมีอายุน้อยอยู่อย่างเช่น นักเรียน นักศึกษา ความโดดเด่นของรุ่นนี้นั้นจะมีการผสมกลิ่นของเบอร์กาม็อตเข้ากันไปกลิ่นของพริกไทยดำและแอมบรอกซาน ทำให้กลิ่นจะดูสดใสและมีความหอมหวานมากที่สุด

โดยความแตกต่างของ 3 รุ่นนี้นั้นจะสังเกตุได้เด่นชัดในช่วงของ Top nose และ Middle nose ซึ่งถึงแม้จะมีความหอมและกลิ่นบางอย่างที่แตกต่างกัน แต่ในภาพรวมนั้นก็ยังถือว่าเป็นกลิ่นที่อยู่ในโทนเดียวกัน หอมกลิ่นของเบอร์กาม็อตเหมือนกันนั่นเอง

- สำหรับ Top nose ของรุ่น Parfum กับ Eau de Parfum นั้น จะมีความหอมที่คล้ายคลึงกันมาก แต่กลิ่นเปิดของ Eau de Parfum จะมีความสดใสที่มากกว่า ฃ

- ส่วน Middle nose นั้น เมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง กลิ่นของรุ่น Eau de Parfum และ Eau de Toilette จะค่อยๆ คล้ายกันเข้าไปเรื่อยๆ

- และ Base nose ของทั้ง 3 รุ่นนั้น เมื่อผ่านไป 3-4 ชั่วโมง กลิ่นจะมีความคล้ายคลึงกันทั้ง 3 รุ่น แต่รุ่นที่ให้กลิ่นที่ชัดมากที่สุด คือ รุ่น Parfum นั่นเอง

สำหรับใครที่อยากลองเปลี่ยนลุคเป็นชายหนุ่มที่ดูเท่ห์ อบอุ่น สุขุม นุ่มลึก แต่แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวน ดูขี้เล่นจนไม่สามารถละสายตาได้นั้น ก็สามารถหาซื้อ น้ำหอม Dior Sauvage ไปลองใช้กันได้เลย ส่วนจะเลือกซื้อรุ่นไหนนั้น ก็ลองนำเอาข้อมูลที่แก้มมาบอกกันในวันนี้ไปศึกษาดูว่ารุ่นไหนจะเป็นรุ่นที่ถูกใจคุณมากที่สุดนะคะ ^_^

Dior Sauvage	ส่วนผสมของกลิ่นหอม	ความนุ่มลึก ละมุน	ความสดใส หอมหวาน	กลิ่นแอมบรอกซาน	กลิ่นเครื่องเทศ
รุ่น Parfum	เบอร์กาม็อต + ไม้ + ทองก้าบีน + สไปซี่แมนดาริน	1	3	ไม่มี	ไม่มี
รุ่น Eau de Parfum	เบอร์กาม็อต + ดอกโปยกั๊ก + เครื่องเทศอื่นๆ + แอมบรอกซาน	2	2	มี	มี
รุ่น Eau de Toilette	เบอร์กาม็อต + พริกไทยดำ + เครื่องเทศต่างๆ + แอมบรอกซาน	3	1	มี	มี