ได้เวลาเปลี่ยนครีมกันแดด! ราชกิจจาฯประกาศ “ห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีสารอันตราย”
ได้เวลาเปลี่ยนครีมกันแดด! ราชกิจจาฯประกาศ “ห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีสารอันตราย”
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงนามโดยนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ เรื่อง “ห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ
ใจความสำคัญระบุไว้ว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการนำและใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ โดยจากข้อมูลทางวิชาการพบว่าสารเคมีหลายชนิดที่พบในครีมกันแดดมีส่วนทำให้ปะการังเสื่อมโทรมลง เนื่องจากสารเคมีเหล่านั้นทำลายตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทำให้ปะการังฟอกขาว
กรมอุทยานฯ พิจารณาแล้วว่า เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลทรัพยากร และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการังและระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จึงออกประกาศดังนี้
1. ห้ามนำและใช้ครีมกันแดด ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzylid Camphor และ Butylparaben หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
2. ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2564
ดังนั้น ถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนครีมกันแดดกันใหม่แล้วค่ะคุณ! และการเปลี่ยนครีมกันแดดในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเลือกยี่ห้ออะไรก็ได้นะ เพราะถ้าหากใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวทะเล เที่ยวเกาะกันหลังล็อคดาวน์ ก็อย่าลืมมองหาครีมกันแดดที่ไม่มีสารต้องห้ามทั้ง 4 สารกันด้วย วันนี้แก้มเลยจะขอแนะนำครีมกันแดดที่ดีต่อปะการัง ดีต่อธรรมชาติ เพราะเป็นครีมกันแดดแบบ Reef Safe จากแบรนด์ Rereef นั่นเองค่า
ครีมกันแดด Rereef Reef-Safe Sunscreen SPF50 PA+++ เป็นครีมกันแดดที่ไม่ใส่สารเคมี (Mineral/Non-Chemical) โดยใช้ Zinc Oxide เป็นสารตัวหลักในการป้องกันแสงแดดร่วมกับ Titanium dioxide ซึ่งเป็นสินแร่ตามธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ตกค้างเป็นมลภาวะใต้ท้องทะเล รวมถึงไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
ค่าการป้องกันแสงแดดและรังสี UV ของครีมกันแดดตัวนี้ก็สูงถึง 50 เท่า โบกตัว ทาผิวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาทางสิ่งแวดล้อม! เนื้อครีมกันแดดสามารถซึบซาบลงสู่ผิวได้รวดเร็วโดยไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว แถมยังปกป้องผิวได้ยาวนานโดยไม่ต้องทาซ้ำอีกด้วย